Menu Close

“โปรเบลกลับบ้าน” แกเร็ธ เบล กลับพรีเมียร์ลีกอีกครั้งกับทีมเดิม

หลังจากที่มีปัญหาคาราคาซังมาอย่างยาวนานในที่สุดเรื่องราวของราชันชุดขาว กับแกเร็ธ เบล ปีกความเร็วสูงชาวเวลส์ก็สามารถหาทางออกที่ดีที่สุดของทั้งสองฝ่ายเสียที ซึ่งมันเป็นทางออกที่ดูเหมือนว่าจะมีความสุขด้วยกันทุกฝ่ายเลยทีเดียว นั่นก็คือการย้ายกลับมาเล่นให้กับทีมที่เป็นเหมือนบ้านของเขาอย่างไก่เดือยทอง ท็อตแน่ม ฮอทสเปอร์ส ด้วยสัญญายืมตัวเป็นเวลาหนึ่งฤดูกาล

เมื่อเจ็ดปีที่แล้วแกเร็ธ เบล ย้ายออกจากไวท์ ฮาร์ท เลนไปสู่ซานติอาโก้ เบอร์นาเบว ด้วยราคาที่ทำลายสถิติโลกของคริสเตียนโน่ โรนัลโด้ ที่ 86 ล้านปอนด์ มันทำให้ทุกคนที่มาดริดคาดหวังว่าเขาจะสามารถก้าวขึ้นมาเป็นนักเตะระดับโลกเทียบเท่าหรือสูงกว่าโรนัลโด้ และมันก็ไม่ได้ดูเกินจริงแต่อย่างใดเมื่อดูจากศักยภาพที่มีอยู่ในตัวของเบลเองที่มีทั้งความเร็วที่เคยฉีกกองหลังระดับโลกอย่างไม่ค่อนจนขาดเป็นริ้ว ๆ มีเท้าซ้ายที่สุดมหัศจรรย์สามารถทำประตูได้ทุกรูปแบบ แถมยังสร้างสรรค์โอกาสให้เพื่อนร่วมทีมได้ดีอีกด้วย และยังสามารถเล่นได้ตั้งแต่วิงแบ็คสองข้างไปจนถึงทุกตำแหน่งในแนวรุกอีกด้วย

และเรื่องของความสามารถและความสำเร็จนั้นมันไม่ได้เป็นปัญหาแต่อย่างใด เพราะเมื่อหันไปดูสถิติของเขากับราชันชุดขาวนั้นก็ไม่ธรรมดาเลย จาก 251 นัดที่เบลลงเล่นให้มาดริดเขาทำได้ถึง 105 ประตู กับอีก 68 แอสซิสต์ และสามารถคว้าแชมป์กับทีมมาได้หลายรายการคือ 2 แชมป์ลาลีกา 4 แชมป์ยูซีแอล และ 3 แชมป์สโมสรโลก ซึ่งเขาได้แชมป์กับทีมมากกว่าซีเนดีน ซีดานผู้จัดการทีมคนปัจจุบันที่ได้ชื่อว่าเป็นตำนานของสโมสรอีกด้วย

แต่ปัญหาของเขามันน่าจะมาจากไลฟ์สไตล์ซะมากกว่า เพราะเบลนั้นจะเรียกว่าเป็นนักเตะที่โลกส่วนตัวและมีความเป็นตัวเองสูงไปซักหน่อย แถมยังไม่ยอมพูดสเปนอีกด้วยซึ่งมันทำให้เขาเข้ากับเพื่อนร่วมทีมไม่ได้ และมันก็มีผลอย่างมากกับการใช้ชีวิตในต่างแดนแบบตัวคนเดียว ลองคิดถึงว่าคน ๆ หนึ่งที่แต่ละวันเดินทางมาสนาม เตะฟุตบอลแล้วกลับบ้านโดยไม่มีเพื่อนพูดคุยมาตลอดเจ็ดปีมันจะเหงาแค่ไหน อีกทั้งยังมีกีฬาโปรดของเขาอย่างกอล์ฟอีกที่มันก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายแต่อย่างใดที่นักฟุตบอลจะตีกอล์ฟ แต่ในช่วงเวลาที่ระหองระแหงกันมันก็ทำให้แฟนบอลทีมตัวเองนำมาเป็นประเด็นเหน็บเขาว่าอยากจะเป็นโปรกอล์ฟมากกว่านักเตะมาดริดเสียอีก

ไม่ว่าอดีตจะเป็นอย่างไรในวันนี้ช่วงเวลาอันเลวร้ายของแกเร็ธ เบล มันได้จบลงแล้ว ด้วยการย้ายกลับมาอยู่กับบรรยากาศที่คุ้นเคยบนเกาะอังกฤษอีกครั้งกับทีมที่เป็นที่รักของเขาเอง และมีแฟนบอลที่พร้อมจะสนับสนุนและรอคอยให้เขากลับมาอยู่เสมอ และจะเป็นโอกาสให้เบลพิสูจน์ตัวเองอีกครั้งว่าเขาหมดไฟในการเล่นฟุตบอลไปแล้ว ดังที่หลายสโมสรกังวลจนไม่มีใครกล้าทุ่มเงินดึงเขาออกจากเบอร์นาเบวเสียทีจริง หรือเป็นเพียงแค่การไม่ลงรอยกับซีดานที่มาดริดเท่านั้นที่ทำให้เขามีปัญหาและฟอร์มตกลงไป ซึ่งถ้าเป็นอย่างหลังก็จะกลายเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับไก่เดือยทอง ที่จะได้นักเตะที่มีศักยภาพระดับโลกกลับมาใช้งานแบบฟรี ๆ ไม่แน่ว่าการกลับสู่อ้อมแขนอันอบอุ่นของครอบครัวอีกครั้งของแกร็ธ เบล อาจจะทำให้เขากลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง และกลับมาเล่นได้อย่างเต็มศักยภาพที่เขามีก็เป็นได้